จากระยะเวลาที่ผ่านมา คนไทยเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพและโรคร้ายต่าง แต่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายก็ยังมีสิ่งที่ดีอยู่เสมอ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) แต่ก็ยังมีคำถามว่าทำไมถึงควรมีเครื่องฟอกอากาศติดบ้านไว้ ไปอ่านกันค่ะ
เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่ดีจะสามารถกำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดโรค ไข้หวัดต่าง ๆ ได้ ด้วยปัจจุบันเทคโนโลยีของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) มีขนาดกะทัดรัดขึ้น เทคโนโลยีในการกรองอากาศมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงสามารถกำจัดอนุภาคอันตรายขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 99.99% เลยทีเดียว
ยิ่งในช่วงนี้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นละอองเป็นพิษ หรือ PM 2.5 ซึ่งเป็นมลพิษทางอากาศที่สูงเกินกว่าค่ามาตรฐานและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทำให้ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) กลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้หายใจสะดวก สูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอดอีกครั้ง
เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ถือเป็นเครื่องที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย ฝุ่นละออง รวมทั้งกลิ่นต่างๆ ที่ไม่พึงประสงค์ให้หายไป สามารถใช้ฟอกอากาศเพื่อให้อากาศมีความบริสุทธิ์มากขึ้น และลดโอกาสการก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ เนื่องจากฝุ่นควันพิษอย่าง PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี
หลักการทำงาน เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) นั้นจะทำการดูดอากาศเข้าไปในตัวเครื่อง แล้วกรองอากาศ ดักจับเชื้อโรคที่ผ่านเข้ามาด้วยแผ่นกรองอากาศ จากนั้น เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) จะปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาแทน ทำให้สามารถหายใจได้อย่างเต็มปอด ไม่ต้องกังวลเรื่องเชื้อโรค แบคทีเรีย หรือฝุ่นละออง อีกต่อไป
เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) มีประโยชน์กับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจ ผู้ที่ต้องใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับฝุ่นละออง ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่อับชื้น ทำให้เชื้อโรคสามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่สถานที่คับแคบ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) สามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่มีอยู่ในอากาศได้ ถึงแม้จะไม่สามารถกรองอากาศให้บริสุทธิ์ 100% แต่ยังได้รับอากาศที่เหมาะสมและดีกับสุขภาพ
1. เครื่องฟอกอากาศ ( Air purifier ) ป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ
สำหรับคนที่มีโรคภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัว คงเข้าใจดีกว่าเมื่อร่างกายได้สัมผัสและสูดดมฝุ่นเข้าไปแล้ว ก็สามารถทำให้อาการกำเริบได้ ซึ่งเครื่องฟอกอากาศจะทำหน้าที่ดักจับฝุ่น หรือสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ ที่อยู่ในอากาศ ทำให้คุณสามารถมั่นใจว่าอากาศที่สูดหายใจเข้าไปนั้นจะไม่มีสารก่อภูมิแพ้ใดๆ
2. เครื่องฟอกอากาศ ( Air purifier ) ช่วยกำจัดขนและสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง
ถึงแม้ว่าคุณจะพยายามทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณสะอาดแค่ไหน ก็ไม่ได้แปลว่าบ้านของคุณจะสะอาดและปราศจากเชื้อโรคอยู่ดี ซึ่งเครื่องฟอกอากาศจะเข้ามากำจัดและแยกสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ด้วยคุณสมบัติของแผ่นกรองแต่ละชิ้น ทำให้คุณสบายใจและใช้ชีวิตกับสัตว์เลี้ยงได้อย่างปลอดภัย
3. เครื่องฟอกอากาศ ( Air purifier ) ลดความเสี่ยงจากอันตรายของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
ถ้าคุณกำลังเป็นแม่ที่กำลังจะตั้งครรภ์ คุณควรระวังอันตรายจากมลพิษทางอากาศเป็นพิเศษ เพราะผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้จากการสูดดมจุลินทรีย์ แบคทีเรีย ซึ่งการใช้เครื่องฟอกอากาศจะสามารถช่วยบรรเทาปัญหานี้ได้
4. เครื่องฟอกอากาศ ( Air purifier ) กำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
กลิ่นไม่พึงประสงค์ที่มาจากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งถ้าใช้ชีวิตอยู่กับกลิ่นเหม็นและสูดดมมันเป็นเวลานานจะทำให้ประสาทการรับกลิ่นของคุณแย่ลง โดยการใช้เครื่องฟอกอากาศจะช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์พวกนี้ รวมไปถึงช่วยลดกลิ่นฝังแน่นและเชื้อโรคในอากาศได้อีกด้วย
5. เครื่องฟอกอากาศ ( Air purifier ) ลดความเสี่ยงอันตรายจากสารเคมี
ถ้าคุณอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยเคมีภัณฑ์ การลงทุนซื้อเครื่องฟอกอากาศอาจจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเพื่อดูแลสุขภาพของคุณระยะยาว
การมี เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าต่อสุขภาพร่างกาย ยิ่งถ้าสภาพแวดล้อมภายในบ้านมีฝุ่น อยู่ใกล้ถนน สมควรอย่างยิ่งที่จะหา เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) มาไว้ภายในบ้าน ซึ่งการเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่ดี เครื่องจะต้องทำงานได้เงียบและสามารถลดฝุ่นละอองภายในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวัดได้จากอัตราการเปลี่ยนถ่ายอากาศต่อชั่วโมงและค่า (CADR)
หากคุณกำลังมองหา เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่ใช้งานได้ในระยะยาว เลือก “เครื่องฟอกอากาศ ตรา แมนเนเจอร์ ( Air Purifier by ManNature )” สิคะ นำเข้าจากประเทศเยอรมัน เทคโนโลยี EPPO ไส้กรองอากาศระบบ Electrostatic ion ประสิทธิภาพสูง เพื่อให้ได้อากาศบริสุทธิ์ และจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ได้
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม