ฟอกปอดกับ เครื่องฟอกอากาศ
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

บทความ ฟอกปอดกับ เครื่องฟอกอากาศ


อากาศที่ในปัจจุบันที่เป็นขนาดนี้ ทั้งมลภาวะ ฝุ่น ควันต่างๆ จากท่อรถ และอากากาศที่มีฝุ่นเยอะมากในขณะนี้ เราจะไม่ใช้ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ได้อย่างไร เรามาฟอกปอดกันเถอะ

 

การที่เรามี เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ไว้ในบ้านนั้นสามารถช่วยตัวเราได้เยอะเลย ไม่ได้ซื้อมาไว้ประกอบไว้เฉยๆ เพราะว่า อากาศที่เป็นพิษ

 

รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ( PM 2.5 ) พื้นที่ภาคใต้ พบปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 9-79 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.)

 

PM 2.5 หรือ Particulate Matter 2.5 เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กมาก ขนาดต่ำกว่า 2.5 ไมครอนลงมา เรียกว่า “ฝุ่นละเอียด” ด้วยขนาดของฝุ่นที่เล็กมาก จึงทำให้ฝุ่นประเภทนี้สามารถแทรกซึมเข้าสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ง่าย สามารถสะสมในปอดทำให้ปอดแลกเปลี่ยนอากาศได้น้อยลง หรืออาจแทรกซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือด ซึ่งก่อเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด

โรคที่ตามมา

 

อาการของโรคจมูกอักเสบ

     อาการของโรคจมูกอักเสบที่พบได้บ่อย คือ คัดจมูก แน่นตันจมูกข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง น้ำมูกไหล บางรายมีอาการหูอื้อ เจ็บด้านหลังหู ปวดศีรษะแบบหนักท้ายทอยโดยเฉพาะในช่วงเช้าหลังตื่นนอน รู้สึกเพลีย อาการมึนและปวดศีรษะ ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบจากสารก่อภูมิแพ้อาจมีอาการไอ จาม คันตา น้ำตาไหล ถ้าติดเครื่อง เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ไว้ จะลด ปัญหาพวกนี้ได้

 

ภูมิแพ้ขึ้นตา

โรคภูมิแพ้นั้นมีหลายชนิด โดยอาการของโรคภูมิแพ้นั้น คือ อาการที่ร่างกายไวต่อสารเกิดภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละออง ขนสัตว์ อาหาร ฯลฯ จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย ซึ่งอาการของโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยๆมักจะเกิดขึ้นบริเวณดวงตา เรียกว่า “โรคภูมิแพ้ขึ้นตา” หรือ “เยื่อบุตาอักเสบ” อาการที่เกิดขึ้น คือ มักมีอาการบวมของเปลือกตา คันตาทั้งสองข้าง มีขี้ตาเยอะ ตาแดงเล็กน้อย โดยเฉพาะเวลาที่เพิ่งตื่นนอนตอนเช้า ซึ่งขี้ตาในตอนตื่นนอนนั้นจะมีลักษณะสีขาวขุ่น หรือ สีเหลืองอ่อนๆ แต่ถ้าขี้ตาของคุณเป็นสีเขียวแสดงว่ามีการติดเชื้อในบริเวณดวงตา

 

การฟอกปอดในที่นี้นั้นหมายถึง การที่เรามีสุขภาพที่ดี และ สุขภาพที่ดี โดยการ ติด เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) สามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ เพราะว่า  เครื่องฟอกอากาศ ( Air purifier) เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพสูง  สามารถกรองพวกโลหะหนักได้ และ กรองฝุ่น pm2.5 ได้  ยับยั้งเชื้อโรค ได้ถึง 99.9%  และที่สำคัญปลอดภัย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สามารถกรองกลิ่นที่เหม็นอับได้อีกด้วย นิยมมากใน พวกฟิสเนส หรือ ห้องครัว ออฟฟิศที่นั่งทำงานกัน จะได้อากาศที่บริสุทธิ นั้นเอง

 

เสริม นอกจาก เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )  ก็ยังมีพืชที่สามารถ ฟอกอากาศได้เหมือนกัน

 

ว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้ยังสามารถปลูกไว้ในบ้านเพื่อฟอกอากาศและดูดซับสารเคมีต่างๆ เมื่อปริมาณของสารเคมีที่เป็นอันตรายในอากาศมีมากเกินไป ใบของว่านหางจระเข้จะมีจุดสีน้ำตาลขึ้นมาให้เห็นอีกด้วย

 

พลูด่าง  สามารถปลูกในแปลงจัดสวน ปลูกในกระถาง หรือปลูกในแจกัน ช่วยกำจัดสารฟอร์มาลดีไฮด์ภายในบ้านได้ มีความสามารถในการดูดสารพิษได้ปานกลาง แต่คายความชื้นได้มาก นิยมปลูกพลูด่างในห้องครัว ห้องน้ำ หรือในห้องรับแขก

 

ปาล์มไผ่    มีคุณสมบัติดูดซับสารพิษที่ปนเปื้อนในอากาศ ช่วยบรรเทากลิ่นน้ำยาฆ่าแมลง กลิ่นสารซักล้าง สารระเหยที่มากับเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ใหม่ๆ มีอัตราการคายความชื้นสูง ช่วยเพิ่มความสดชื่นในอากาศ

พืชชนิดพวกนี้ สามาทำ หน้าที่ได้เหมือน เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )  

 

อย่างไรก็ตามควรหมั่นทำความสะอาดห้องของเราด้วย ใส่อุปกรณ์ป้องการหายใจ และหมั่นดูแลเอาใจใส่พืชด้วยเช่นกัน ติดตามโปรโมชั่น และบทความดีๆ ได้ที่นี่เลย   

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

พืช 10 ชนิดที่เป็น เครื่องฟอกอากาศ จากธรรมชาติ

วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้ขึ้นตา

ติดเครื่องฟอกอากาศช่วยให้ลดอากาศเสียจากฝุ่น

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก health.kapook