เครื่องฟอกอากาศ หายใจคล่อง อากาศสะอาด สดชื่น
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

บทความ เครื่องฟอกอากาศ หายใจคล่อง อากาศสะอาด สดชื่น


เครื่องฟอกอากาศ หายใจคล่อง อากาศสะอาด สดชื่น

ปัจจุบันในยุค โควิด 19 ( covid 19 ) การมี เครื่องฟอกอากาศ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ห่างไกลจาก โควิด 19 ( covid 19 ) ด้วย แถมยังได้ อากาศสะอาด และ สดชื่น อีกด้วย ทำให้พร้อมกับการทำงานตอนเช้า WFH ( work for home )

เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ในปัจจุบันถือว่า มีกันหลายครอบครัวแล้วที่ซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) มาไว้ในบ้าน เพราะมีทั้งฝุ่น ควัน มลพิษต่างๆ ที่ต้องเจอ เมื่อออกจากบ้าน แต่เมื่อมี เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) อยู่ในบ้านแล้ว เมื่อกลับมาบ้านก็จะพอกับ อากาศที่ สดชื่น สะอาด ทำให้รู้สึกโล่ง ผ่อนคลาย เครื่องฟอกอากาศนั้น ใช้หลักการเดียวกับ พัดลมทั่วไป ( Fan ) ที่ต้องดูดอากาศแล้วเป่าออกมา ส่วนประกอบของเครื่องฟอกอากาศหลัก ๆ คือ ใบพัด ระบบการกรองอากาศ ( Air Purification System ) และ มอเตอร์ เพื่อใช้ในการดูดอากาศเข้าไปภายในตัวเครื่อง และปล่อยออกมาด้านนอก

เครื่องฟอกอากาศ  Air Purifier หรือ Air Cleaner หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการดับจับ สิ่งสกปรก แปลกปลอมในอากาศ อาทิ ฝุ่น ละอองเล็ก ๆ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ

 

ข้อดี ของ เครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ตัวช่วยสำคัญในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และ โรคทางเดินหายใจ เพราะเป็นตัวกลฃรองขั้นแรกที่ช่วยให้ภายในบ้าน มีอากาศที่สะอาดขึ้น ปราศจากจาก ฝุ่น เชื้อแบคทีเรีย เพราะเครื่องฟอกอากาศจะช่วยกรองสิ่งต่าง ๆ ให้อากาศบริสุทธิ์ ตัวช่วยคนเป็นโรคภูมิแพ้ มีหลาย ๆ บ้านอาการภูมิแพ้บรรเทาลง เพราะได้เครื่องฟอกอากาศ และ ทำให้หลับสนิทได้มากขึ้น ยังทำให้การเป็นไข้หวัดคัดจมูกดีขึ้นด้วย เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศทำให้อากาศดีขึ้น

 

ข้อเสีย ของ เครื่องฟอกอากาศ

เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ถึงแม้จะช่วยกรองฝุ่นละอองต่าง ๆ ได้ดี แต่เครื่องฟอกอากาศไม่ใช่เครื่องกำจัดฝุ่นละออง ดังนั้นฝุ่นละอองต่าง ๆ จึงยังอยู่ แค่เครื่องฟอกอากาศช่วยกรองฝุ่นเท่านั้น ทำให้อากาศสะอาดขึ้น แต่ก็ยังมีฝุ่น เหลือในจำนวนที่น้อยกว่าปกติ

 

คุณสมบัติของเครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )

ในปัจจุบัน เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ถูกผลิตออกมาจากหลายบริษัทมาก และ เกิดการแข่งขันกันในตลาดของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ผู้ประกอบการจึงได้คิดค้นวิธีการเพิ่ม Function เสริม หรือคุณสมบัติของเครื่องฟอกอากาศขึ้นมา ในแต่ละแบรนด์ก็จะมีความเหมือนหรือแตกต่างกันบ้าง ปะปนกันไป เพื่อใช้ในการเพิ่มแรงจูงใจให้ลูกค้าสนใจ และ เลือกซื้อสินค้าของตนเอง อาทิเช่น การเพิ่มระบบสัมผัส และ การแจ้งเตือน เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแผ่นกรอง ระบบป้องกันไฟตก ไฟกระชาก เซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ หรือ แม้กระทั่งระบบที่ช่วยประหยัดพลังงาน เป็นต้น

เสียงของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) จะต้องไม่ดังจนเกินไป โดยจะอยู่ที่ไม่เกิน 30 เดซิเบล เป็นระดับเสียง ที่ไม่รบกวนสมาธิในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับ หรือ การทำงาน

เรื่องนี้สำคัญมาก ๆ เพราะเราควรจะต้องเลือก เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ของห้องเรา โดยแต่ละเครื่องจะมีระบุชัดเจนอยู่แล้วว่า เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) เครื่องนี้รองรับพื้นที่กี่ตารางเมตร ซึ่งแน่นอนว่าต้องคำนวณพื้นที่ของห้องเราก่อนที่จะไปซื้อ เพราะถ้าห้องมีขนาดใหญ่ แต่เครื่องฟอกอากาศมีขนาดเล็ก ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะนำมาใช้ การทำงานของเครื่อง ก็จะไม่มีประสิทธิภาพ ข้อแนะนำสำหรับการเลือกเครื่องฟอกอากาศกับขนาดห้อง แม้ว่าเราจะมีพื้นที่ที่วางเพื่อวางเครื่องขนาด 15 ตารางเมตรแล้ว แต่ไม่ควรซื้อฟอกอากาศที่มีขนาดพอดี ควรเลือกเครื่อง ที่สามารถรองรับพื้นที่ขนาด 20 – 25 ตารางเมตร เพื่อประสิทธิภาพในการฟอกอากาศที่ดียิ่งขึ้น

 

ดูแลรักษา เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier Maintenance )

การดูแล เครื่องฟอกอากาศธรรมดาทั่วไป ก็จะเป็นการทำความสะอาด แผ่นกรองอากาศ เสียมากกว่า แต่สำหรับเครื่องฟอกอากาศที่มี ฟังก์ชันเสริมพิเศษเพิ่มเข้ามา ที่ไม่เกี่ยวกับการฟอกอากาศ ( Nonpurifying Functions ) ก็อาจจะมีการดูแลรักษาเพิ่มเติม อีกสักเล็กน้อย เพื่อให้เครื่องสะอาดมากขึ้น

การดูแลรักษา เครื่องฟอกอากาศ เป็นการช่วยให้ เครื่องฟอกอากาศ ทำงานได้ดีขึ้น และเป็นการช่วยให้เครื่องฟอกอากาศใช้งานได้นานขึ้น การดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศ จึงควรทำเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อให้เราสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และ ไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องฝุ่นละอองต่าง ๆ อีกด้วย

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ป้องกันเชื้อโรค ด้วยเครื่องฟอกอากาศ

เชื้อโรค แขกที่บ้านไม่ต้องการ