เมื่อมีอาการไข้ ไอ หายใจหอบเหนื่อย อาการเข้าได้กับโรคปอดอักเสบ ควรไปพบแพทย์ทันที หรือ มีอาการไอปนเลือด หายใจเหนื่อยมากขึ้น หายใจเจ็บหน้าอกมาก แน่นหน้าอก เพราะนั่นอาจเป็นอาการของโรคปอดอักเสบ
โรคปอดอักเสบ (Pneumonia)
โรคปอดอักเสบ หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า “ปอดบวม” เป็นโรคทางระบบทางเดินหายใจที่เกิดการติดเชื้อบริเวณปอด เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย และทำให้เกิดการอักเสบ บวม มีน้ำหรือหนองอยู่ภายในถุงลมปอด ทำให้การแลกเปลี่ยนอากาศทำได้ไม่ดี พบบ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว โรคปอดอักเสบสามารถพบผู้ติดเชื้อได้ทุกช่วงอายุ แต่ในเด็กอายุน้อยกว่า 4 ปีและผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 65 ปี มีโอกาสเกิดความรุนแรงของโรคได้มากกว่า โรคปอดอักเสบทำให้เกิดอาการไอ หายใจลำบาก และหายใจหอบเหนื่อย ในรายที่มีอาการมากอาจเสียชีวิตได้ การรักษาอาจพิจารณาใช้ยาฆ่าเชื้อตามชนิดของเชื้อที่เป็นสาเหตุ ร่วมกับการให้ออกซิเจนเสริม และการรักษาตามอาการจนอาการหายดี
เชื้อที่ก่อโรค เชื้อโรคที่เป็นสาเหตุได้แก่เชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสที่พบบ่อยได้แก่ อดิโนไวรัส (Adenovirus), อินฟลูเอนซา (ไข้หวัดใหญ่ : Influenza), พาราอินฟลูเอนซา (Parainfluenza) และ อาร์เอสวี (Respiratory syncytial virus : RSV) เชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยได้แก่ สเตรปโตคอกคัส (Streptococcus pneumoniae), ฮีโมฟิลุส (Haemophilus influenzae), มอแรกเซลลา (Moraxella catarrhalis) และ ไมโคพลาสมา (Mycoplasma pneumoniae)
การติดต่อ
ติดต่อผ่านทางน้ำมูก น้ำลายและเสมหะ โดยการหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในละอองฝอยกระจาย จากการไอหรือหายใจรดกัน หรืออาจเกิดจากการสำลักเชื้อลงสู่ปอด เช่น สำลักน้ำลาย อาหาร (โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ) ระยะเวลาแพร่เชื้อขึ้นกับชนิดของเชื้อและสามารถแพร่เชื้อได้จนกว่าเชื้อใน เสมหะจะน้อยลงมาก การระบาดสามารถเกิดได้ในบริเวณที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก ค่ายทหาร เรือนจำ
อาการที่พบ
เมื่อเชื้อลงมาที่ทางเดินหายใจส่วนล่าง คือ ปอดและถุงลมปอด เชื้อจะแบ่งตัวและทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อปอด ต่อมาภูมิคุ้มกันของร่างกายจะเข้ามาทำลายเชื้อ เกิดการอักเสบบวมมากขึ้น และมีน้ำหรือหนองอยู่ภายในถุงลมปอดแทนที่อากาศ ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนอากาศระหว่างถุงลมและเลือดทำได้ไม่ดี ทำให้ผู้ป่วยมีภาวะขาดออกซิเจนในร่างกาย มีอาการไอ หายใจเร็ว หายใจลำบาก หายใจหอบเหนื่อยมากขึ้น
อาการของโรคปอดอักเสบ โดยทั่วไป ได้แก่ ไข้ ไอมีเสมหะ หายใจเร็ว หายใจลำบาก หอบเหนื่อย หายใจเจ็บหน้าอก ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมี หายใจแรงจนจมูกบาน บางรายเกิดหลอดลมภายในปอดตีบจนหายใจดัง (คล้ายหอบหืด) ในรายที่มีอาการรุนแรงมาก จะมีภาวะการหายใจล้มเหลว ร่างกายขาดออกซิเจนมากทำให้ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยน หงุดหงิด สับสน ซึมลง หมดสติ และเสียชีวิตได้ ระยะเวลาการเป็นโรคขึ้นกับชนิดของเชื้อโรคและความรุนแรงของโรค
การป้องกันการติดเชื้อ
-หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีคนแออัด โดยเฉพาะเด็กเล็ก ลดการสัมผัสกับผู้ป่วย หรือใช้ของร่วมกับผู้ป่วย หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้ล้างมือหลังสัมผัส อย่าเอามือสัมผัสหรือถูจมูก หรือขยี้ตา
-พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ
-หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ป่วยที่กำลังไอหรือจาม หลีกเลี่ยงที่มีคนแออัดในช่วงที่มีการระบาด
-การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ปัจจุบันแนะนำให้ฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลควรฉีดทุก 1 ปีเนื่องจากมีการเปลี่ยนสายพันธุ์บ่อย
เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำจัดสิ่งที่ปนเปื้อนมากับอากาศ เช่น ฝุ่น แบคทีเรีย หรือไวรัส รวมไปถึงกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ อย่าง กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นรองเท้า หรือกลิ่นเหม็นต่างๆ โดยหลักการทำงานของมันคือการดูดอากาศที่ปนเปื้อนสิ่งเหล่านี้เข้าไปผ่านกระบวนการ และปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา ช่วยทำให้คุณได้รับอากาศที่ดีเข้าสู่ปอด เพื่อลดและป้องกันการเกิดโรคที่เกี่ยวกับปอด
ให้ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ปกป้องดูแลคนในบ้านคุณให้ห่างไกลจากเชื้อโรค แล้วสุขภาพของคนในบ้านคุณจะปลอดภัยที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก bangkokhospital
อ่านบทความเพิ่มเติม