เทคนิคยืดอายุการใช้งาน เครื่องฟอกอากาศ ให้คุ้มค่าที่สุด
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

บทความ เทคนิคยืดอายุการใช้งาน เครื่องฟอกอากาศ ให้คุ้มค่าที่สุด


เชื่อว่าลงทุนแล้ว หรือซื้อของมา เราก็อยากให้อยู่ใช้ไปนาน ๆ วันนี้มาดู เทคนิคยืดอายุการใช้งาน เครื่องฟอกอากาศ ให้คุ้มค่าที่สุด และอยู่กับเราไปนาน ๆ กันค่ะ

 

 

 

 

ซึ่งวันนี้ ทางเรา ก็ได้นำ วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ของเรานั้น สามารถทำงาน ได้อย่างดีขึ้น ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ทำตาม คำแนะนำ ของเราได้เลยค่ะ

 

ดูแล แผ่นกรองคาร์บอน ของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) อย่าสม่ำเสมอ

สำหรับ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) บางตัว ที่มีฟังก์ชัน ในการกำจัดกลิ่น ที่ไม่พึงประสงค์นั้น ก็จะมี แผ่นกรองคาร์บอน ( Carbon Filter ) ที่เพิ่มมา อีกชั้นด้วย โดยจะมี ลักษณะ ที่เป็นแผ่นสีดำ ๆ เนื่องจากว่า มีส่วนผสม ของถ่านด้วย นั่นเองค่ะ แผ่นกรองชั้นนี้ ก็จะมีหน้าที่ ที่ช่วยดูดซับ ทั้งกลิ่นอับ, กลิ่นอาหาร, ควันบุหรี่ ฯลฯ เมื่อใช้งาน เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ไปได้สักประมาณ 3 เดือน นั่นก็จะถึงเวลา ที่เรา ควรนำออกมาเคาะ หรือว่า ปัดฝุ่นออก ส่วนอายุ ในการใช้งาน แผ่นกรองชั้นนี้ ก็จะอยู่ ที่ประมาณ 1 ปี เราก็ควรเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้ การทำงาน นั้นมีประสิทธิภาพ ในการกำจัด กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้นด้วย

 

ทำความสะอาด ตาข่าย ด้านนอก เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) อย่างสม่ำเสมอ

ซึ่งภายนอก เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ก็จะมี แผ่นตาข่าย หรือว่า ฟองน้ำ ที่สำหรับ ดักจับฝุ่นต่าง ๆ ที่มี ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นด่านแรก ในการเปลี่ยนอากาศ ที่จะเข้ามา ให้สะอาดบริสุทธิ์ โดยหมายความว่า ตรงจุด ๆ นี้ ก็เป็นอีกส่วน ที่สำคัญไม่แพ้กัน การทำความสะอาด แผ่นตาข่าย ชั้นนอกก็ไม่มีระยะเวลา ที่ถือว่า ตายตัว แค่ต้องคอยใส่ใจ และต้องสังเกต ว่ามีฝุ่นจับ ตรงส่วนนี้ อย่างมากน้อยแค่ไหน หากว่า เริ่มมีฝุ่นจับตัว ที่หนามาก จนเห็นได้ชัดแล้ว ก็ควรถอดออก ไปล้าง เพื่อทำความสะอาดได้ โดยอาศัย แปรงปัดฝุ่น หรือว่า ล้างด้วย น้ำสะอาดได้ ตามปกติ จากนั้น จึงค่อยเช็ด หรือว่านำไปตากให้แห้ง ก่อนที่นำไป ประกอบกลับ ตามเดิมนั่นเอง

 

เปลี่ยนแผ่นกรอง เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) เมื่อครบเวลา

โดยส่วน ที่ถือว่าสำคัญ และเป็นเสมือนหัวใจ ของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ก็คือ แผ่นกรองด้านใน หรือว่า แผ่นกรอง HEPA นั่นเอง ซึ่ง แผ่นกรองชั้นนี้ นั้นจะเป็น เส้นใย ที่ถือว่า มีความละเอียด สามารถที่จะ ดักจับฝุ่น ที่มี ขนาดเล็ก อย่างเจ้า PM 2.5 และ แบคทีเรียต่าง ๆ ได้ โดยจะมี อายุ ในการใช้งาน อยู่ประมาณ 6 เดือน นานไป จนถึง 1 ปี หากครบกำหนด ควรนำไปตรวจเช็ค

 

ควรใช้งาน เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ในพื้นที่ปิด

การเปิดห้อง ให้โล่ง ๆ เป็นระยะ เพื่อจะ ระบายอากาศนั้น ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ใช่ ในช่วงเวลา ที่คุณนั้น เปิดใช้งาน เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) เพราะว่า เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) นั้น จะทำงาน ได้อย่าง เต็มประสิทธิภาพ ก็ต่อเมื่อ อยู่ภายในห้องปิด ที่มีอากาศเข้า - ออกไม่มาก ตัวเครื่อง เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ก็สามารถดึงอากาศภายในห้อง มาทำให้สะอาด และปล่อยออกไป เพื่อหมุนเวียนภายในห้องได้ หากว่าใช้ในพื้นที่เปิด นั่นก็จะยิ่งมีการใช้กำลัง ในการดึงอากาศเข้ามามาก ฟิลเตอร์ก็จะยิ่งทำงานหนักมาก เพราะว่า อากาศที่ปนเปื้อนจากภายนอก ก็จะเข้ามาเรื่อย ๆ ไม่ขาด นั่นถือเป็นจุด ที่เกินกำลังของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) นั่นเอง

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับเทคนิคดี ๆ ที่เราได้นำมาฝาก โดย เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) นั้นมีคุณสมบัติการทำงานที่ครบทุกฟังก์ชัน ทั้งระบบเสียงเงียบ และประหยัดพลังงาน ไม่รบกวนการทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถกรองอากาศให้สะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟอีกด้วย สั่งซื้อสินค้าได้ทัทีเลยค่ะ

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เครื่องฟอกอากาศ คิดก่อนซื้อ เพื่อความคุ้มค่า แก่การหายใจ

อากาศเป็นพิษ หลบหนี PM2.5 ด้วย เครื่องฟอกอากาศ


Tag :