บทความ เทคนิควิธีดูแล เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่คุณควรรู้

เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ก็มีการดูแล ที่แตกต่างกันไป วันนี้มาดู เทคนิควิธีดูแล เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่คุณควรรู้ แน่นอนว่า ยืดอายุการใช้งานได้ดีมาก

สำหรับวันนี้ Mannature Air Purifier ก็ได้นำ วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ของเรานั้น สามารถทำงาน ได้อย่างดีขึ้น ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ทำตาม คำแนะนำ ของเราได้เลยค่ะ

1. ห้ามลืม ทำความสะอาดภายนอก เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )

การทำความสะอาด ตัวเครื่อง เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ด้านนอก ก็สำคัญไม่แพ้ กับการทำความสะอาด แผ่นกรองแต่ละชั้น สำหรับชิ้นส่วนเครื่อง ที่เป็นพลาสติกนั้น เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำ บิดหมาด ๆ มาเช็ดคราบ หรือว่าใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ มาเช็ดก็เพียงพอแล้ว แต่ส่วนที่ ต้องดูแล อย่างเป็นพิเศษนั้น ก็คือ บริเวณช่อง ที่ปล่อยอากาศ ให้ไหลผ่านออกมา ตรงจุดนี้ ก็จะมีลักษณะ เป็นเหมือน แผ่นตะแกรง ที่ซ้อนทับ ๆ กันไป ทำให้ฝุ่น นั้นสามารถเข้าไป เกาะและสะสมอยู่ได้ หากว่าไม่ได้ใช้งาน หรือว่า ทำความสะอาด ดูแล อย่างสม่ำเสมอ ฝุ่นที่กองรวมกัน ในจุดนี้ ก็จะฟุ้งกระจาย เมื่อเราได้ เปิดใช้งาน แทนที่เราจะได้อากาศ ที่สะอาดสดชื่น ก็กลายเป็น สูดดมฝุ่น จากตรงนี้เข้าไปแทนนั่นเอง

2. ดูแล แผ่นกรองคาร์บอน ของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )

สำหรับ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) บางตัว ที่มีฟังก์ชัน ในการกำจัดกลิ่น ที่ไม่พึงประสงค์นั้น ก็จะมี แผ่นกรองคาร์บอน ( Carbon Filter ) ที่เพิ่มมา อีกชั้นด้วย โดยจะมี ลักษณะ ที่เป็นแผ่นสีดำ ๆ เนื่องจากว่า มีส่วนผสม ของถ่านด้วย นั่นเองค่ะ แผ่นกรองชั้นนี้ ก็จะมีหน้าที่ ที่ช่วยดูดซับ ทั้งกลิ่นอับ, กลิ่นอาหาร, ควันบุหรี่ ฯลฯ เมื่อใช้งาน เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ไปได้สักประมาณ 3 เดือน นั่นก็จะถึงเวลา ที่เรา ควรนำออกมาเคาะ หรือว่า ปัดฝุ่นออก ส่วนอายุของการใช้งาน แผ่นกรองชั้นนี้ ก็จะอยู่ ที่ประมาณ 1 ปี เราก็ควรเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้ การทำงาน นั้นมีประสิทธิภาพ ในการกำจัด กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้นด้วย

3. เปลี่ยนแผ่นกรอง เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) เมื่อครบเวลา

โดยส่วน ที่ถือว่าสำคัญ และเป็นเสมือนหัวใจ ของ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ก็คือ แผ่นกรองด้านใน หรือว่า แผ่นกรอง HEPA นั่นเอง ซึ่ง แผ่นกรองชั้นนี้ นั้นจะเป็น เส้นใย ที่ถือว่า มีความละเอียด สามารถที่จะ ดักจับฝุ่น ที่มี ขนาดเล็ก อย่างเจ้า PM 2.5 และ แบคทีเรียต่าง ๆ ได้ โดยจะมี อายุ ในการใช้งาน อยู่ประมาณ 6 เดือน นานไป จนถึง 1 ปี โดยขึ้นอยู่กับ ว่ามีการเปิดใช้งาน มาน้อย หรือว่า อยู่ในพื้นที่ ที่มี มลพิษหนาแน่น มากแค่ไหน โดยพื้นฐาน หากเมื่อแผ่นกรอง นั้นเริ่มเสื่อมคุณภาพ ก็จะมีโหมด ของ การแจ้งเตือน จาก เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) เมื่อถึงเวลา ก็จะต้องหา แผ่นกรองชิ้นใหม่ ๆ มาสับ เปลี่ยนเข้าไป โดยไม่สามารถ ที่จะ ถอดออกมา ล้างทำความสะอาดเองได้

4. จัดวาง เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) และเครื่องปรับอากาศ ให้อยู่คนละมุมกัน

เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) และเครื่องปรับอากาศนั้น จะใช้หลักการ ในการดึงอากาศรอบ ๆ เข้าไปเหมือนกัน หากคุณตั้ง เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง 2 ประเภทนี้ ให้ใกล้กันมาก ๆ เกินไป ก็จะทำให้เกิด การแย่งอากาศกัน แทนที่จะช่วย ๆ กันกรอง หรือว่ากระจายอากาศออกไป ซึ่งส่วนมากเครื่องปรับอากาศ นั้นจะมีแรงดูดมากกว่า หากนำ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ไปตั้งไว้ใกล้ ๆ ก็คงมีกำลังไม่มากพอ ที่จะดึงอากาศภายใน ห้องเข้าไปทำความสะอาดแน่นอน ดังนั้น หากอยากให้เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถดึงอากาศรอบ ๆ เข้ามาทำความสะอาด ได้อย่างเต็มที่ นั้นก็ควรจัดวางให้อยู่คนละมุม กับเครื่องปรับอากาศจะดีที่สุด

และนี่ ก็เป็น วิธรการดูแล และเทคนิคการใช้งาน เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ที่น่ารู้ ที่เราได้นำมาฝากทุก ๆ คนค่ะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

เพิ่มอากาศ บริสุทธิ์ ภายในบ้าน ด้วยการใช้ เครื่องฟอกอากาศ

บ้านสะอาด ปราศจากฝุ่น ปลอดภัย ไร้ภูมิแพ้ ด้วยการใช้ เครื่องฟอกอากาศ