ฝุ่นละออง ปัญหาของผู้ป่วยโรคหืด
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

บทความ ฝุ่นละออง ปัญหาของผู้ป่วยโรคหืด


     ฝุ่นละออง โรคหืด ในปัจจุบันอีกหนึ่งตัวการร้ายทำลายผู้ป่วยโรคหืด ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น และเป็นการกระตุ้นให้ผู้ป่วยโรคหืด อาการกำเริบ และรุนเเรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ วันนี้เรานำข้อมูลจากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย  โดย รศ. นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ที่อธิบายไว้ ดังนี้

 

     ปัจจุบันปัญหาของผู้ป่วยโรคหืดทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านคนทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคหืดประมาณ 3 ล้านคน พบว่าโรคหืดจะเกิดในเด็กร้อยละ 10 ส่วนผู้ใหญ่ร้อยละ 5 และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณปีละ 1,500 คน เฉลี่ยถึง 3 คนต่อวัน โดยร้อยละ 70 ของการเสียชีวิตดังกล่าว สามารถป้องกันได้เนื่องจากวิถีชีวิตประจำวันของคนที่เร่งรีบทำให้มีอัตราเสี่ยงเป็นโรคหืดเพิ่มสูงขึ้นและผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป

 

     รวมถึงปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 ที่มีอนุภาคขนาดเล็กมีเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ยน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร แขวนลอยอยู่ในอากาศรวมกับไอน้ำ ควัน และก๊าซ สามารถนำพาสารต่าง ๆ ล่องลอยอยู่รอบตัวเราได้ในปริมาณสูง จนเกิดเป็นหมอกควันที่ถือเป็นมลพิษต่อสุขภาพของมนุษย์ เมื่อสูดเอาฝุ่น PM 2.5 เข้าไป จะมีอาการระคายเคืองจมูก น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ รวมถึงเป็นอันตรายโดยตรงกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบการหายใจต่าง ๆ รวมถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคหืดก็มีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ

 

โรคหืด คืออะไร

โรคหืดเป็นโรคของหลอดลมที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นผิดปกติ เมื่อเจอสิ่งกระตุ้นหลอดลมจะหดเกร็งทำให้หลอดลมเล็กลง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไอ หายใจมีเสียงวี้ด หายใจลำบาก หอบ เป็นๆ หาย ๆ  โรคหืดไม่ใช่โรคติดต่อ แต่อาจจะถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์จากพ่อ แม่ไปสู่ลูกหลานได้

 

การรักษาโรคหืดนั้น แต่ก่อนเราจะเข้าใจว่าโรคหืดเป็นโรคที่รักษาไม่ได้แต่เราหลีกเลี่ยงได้  ดังนั้นโรคหืดอาการมักจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่เป็นหืด  ซึ่งโดยหลักการรักษาโรคหืดมีดังนี้

 

1) หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้หลอดลมอักเสบ คือ สารภูมิแพ้ที่สำคัญ ได้แก่ ไรฝุ่น ขนสัตว์ แมลงสาบ เกสรดอกไม้ เชื้อรา ดังนั้นคนไข้โรคหืดควรทำความสะอาดบ้านให้สะอาด ปราศจากฝุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องนอน

 

2) ใช้ยารักษา ยาที่ใช้ในการรักษาโรคหืดมีทั้งยากิน ยาฉีด ยาพ่น ยาพ่นเป็นยาที่ดีเพราะเป็นยาที่ใช้เฉพาะที่ จึงได้ผลดี

 

3) ติดตามการรักษากับแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แพทย์ประเมินความรุนแรงของโรคและปรับเปลี่ยนการรักษาให้เหมาะสมและดูอาการข้างเคียงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการรักษา

 

หลักการรักษาโรคหืดในปัจจุบันจึงควรเริ่มรักษาให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของหลอดลม ดังนั้นเป้าหมายของการรักษาโรคหืดคือ  ผู้ป่วยโรคหืดทุกคนที่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องควรจะควบคุมโรคได้  คือ ไม่มีอาการหอบ และที่สำคัญควรมี เครื่องฟอกอากาศ ที่สามารถป้องกันโรคหืดได้ การทำงานของเครื่องฟอกอากาศนั้น มีหน้าที่ทำให้อากาศดีขึ้นพร้อมทั้งกรองของเสียจากอากาศ ไรฝุ่น ต่างๆ อีกด้วย

 

ด้วยความปรารถนาดีจาก เครื่องฟอกอากาศ ตราแมนเนเจอร์ (Air Purifier by ManNature)

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก goodlifeupdate