เอาตัวรอดจาก
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

บทความ เอาตัวรอดจาก "โรคแพ้อากาศ" ด้วยเครื่องฟอกอากาศ


หลายคนอาจคิดว่า “โรคแพ้อากาศ” เป็นแค่เรื่องเบาะๆ แค่เลี่ยงฝุ่นก็คงหาย แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะประชากรส่วนมากในกรุงเทพมหานคร มักเป็นโรคภูมิแพ้จากฝุ่นละอองรอบๆ ตัว จึงเป็นเหตุผลที่ต้องติดตั้ง “เครื่องฟอกอากาศ” ( Air Purifier ) ในบริเวณอาคารและห้องต่าง ๆ เพราะสามารถช่วยฟอกอากาศ ลดสารก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ในอากาศได้

 

     หากคุณเริ่มมีอาการจาม น้ำมูกไหล คัดจมูก มีเสมหะ ระคายคอ และไอเรื้อรัง นาน 1-2 เดือน เราขอแนะนำให้คุณรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ ไม่แน่ว่าคุณอาจกำลังเป็นโรคแพ้อากาศ เพื่อเช็คว่าเป็นอาการนั้นหนักแค่ไหน ไม่เช่นนั้นอาจจะเรื้อรังได้ เพราะหากเป็นโรคแพ้อากาศแล้วไม่รักษาหรือรักษาไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อน อย่างเช่น ไซนัสอักเสบเรื้อรัง ริดสีดวงจมูก ได้ ซึ่งโรคเหล่านี้อาจจะต้องผ่าตัดให้ต้องเจ็บตัวได้ในภายหลัง เสียเวลา และสิ้นเปลืองเงินอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นแล้ว เราจึงมีวิธีปฏิบัติของคนที่แพ้อากาศมาฝาก เพื่อป้องกันโรคเบื้องต้นให้ถูกวิธี

 

1. หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้

     การหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ คือ วิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด และจำไว้ว่าต้องเคร่งครัด อย่างคนที่แพ้ฝุ่นในอากาศ ก็ต้องเลี่ยงฝุ่น สำหรับในบ้านหากมีผู้ป่วยโรคแพ้อากาศ ไม่ควรปูพรม หรือ มีสิ่งของในบ้านมากเกินไป เพราะจะเป็นตัวเก็บฝุ่น อีกทั้งทำความสะอาดยาก ทั้งนี้ ควรทำความสะอาดบ้าน โดยเฉพาะห้องนอนเป็นประจำ รวมไปถึงผ้าปูที่นอน และ ปลอกหมอน ควรซักเปลี่ยนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือหมั่นนำมาตากแดด

 

2. หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง

     น้ำหอมกลิ่นแรงๆ สเปรย์ต่างๆ ควันธูป ควันบุหรี่ ควันรถ ล้วนเป็นสารระคายเคือง ที่มีส่วนทำให้อาการแพ้อากาศ สามารถทำให้เป็นหนักขึ้นได้ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด รวมถึงเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและความชื้นอย่างเฉียบพลัน เพราะจะทำให้โรคกำเริบได้

 

3. ออกกำลังกาย

     ปฏิบัติที่ถูกต้อง คือ ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพอเหมาะ ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อีกทางหนึ่ง

 

4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

     อาหารที่มีประโยชน์ นอกจากจะดีต่อร่างกาย ยังเป็นภูมิคุ้มกันให้กับโรคได้ โดยเฉพาะอาหารจำพวกโปรตีน ผัก และผลไม้ ยิ่งทานยิ่งดีต่อสุขภาพ

 

5. นอนหลับพักผ่อน

     หากร่างกายอ่อนเพลีย ขาดการพักผ่อน ก็เหมือนเป็นการเปิดทางให้โรคเข้ามาย่างกรายได้ เพราะฉะนั้นการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ต่ำกว่าวันละ 6-8 ชั่วโมงนี้ ได้ผลดีกับคนทุกคนเลยทีเดียว

 

6. ใช้ยาตามแพทย์สั่ง

     สำหรับผู้ป่วยที่แพ้อากาศควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและจ่ายยา หากผู้ที่มีสภาวะโรคต่างๆ เหล่านี้ไปพบแพทย์อาจจะได้รับคำแนะนำจากแพทย์มาว่าควรติดตั้ง “เครื่องฟอกอากาศ” ( Air Purifier ) เพื่อช่วยทำให้อากาศบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น ช่วยดักจับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ที่ลอยมาในอากาศ ลดโอกาสของการเกิดโรคทางระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ เมื่อรักษาแล้วแพทย์ก็จะจ่ายยาแล้ว เราควรเคร่งครัดในการทานยา หรือใช้ยาให้มากๆ

 

7. ติดตั้ง เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )

     เหตุผลที่ต้องติดตั้ง “เครื่องฟอกอากาศ” ( Air Purifier ) เพราะสามารถฟอกอากาศ ลดสารก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ในอากาศได้ เช่น โรคหอบหืด โรคไซนัส ฝุ่น หรือ ฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นสาเหตุให้เกิดการระคายเคืองที่ปอด เพื่อลดโอกาสของการเกิดโรคทางระบบทางเดินหายใจ ซึ่ง “เครื่องฟอกอากาศ” ( Air Purifier ) มีตั้งแต่ขนาดที่สามารถพกพาได้และขนาดใหญ่ที่ติดตั้งไว้ตามห้อง ตามอาคาร เพื่อผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก

 

     การที่เราจะหาเลือกซื้อ “เครื่องฟอกอากาศ” (Air Purifier) เพื่อติดตั้งในบ้าน หรือ ในอาคารนั้น จะช่วยทำให้การหายใจหรือโรคต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นและฝุ่นที่มีมากในปัจจุบันลดลงได้ พร้อมทั้งเป็นเสมือนเกาะป้องกัน ดังนั้น เราขอแนะนำ เครื่องฟอกอากาศ ตราแมนเนเจอร์ (Air Purifier by ManNature) เป็นเทคโนโลยีเครื่องฟอกอากาศจากประเทศเยอรมัน ด้วยเทคโนโลยี EPPO ไส้กรองอากาศประสิทธิภาพสูง เพื่อความสุขภาพที่ดีของทุกคน

 

ด้วยความปรารถนาดีจาก เครื่องฟอกอากาศ ตราแมนเนเจอร์ (Air Purifier by ManNature)

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sanook