เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ตัวช่วย ปรับสภาพอากาศ
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

บทความ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ตัวช่วย ปรับสภาพอากาศ


คนไทยเผชิญกับปัญหาฝุ่น และ มลพิษ อย่างมากในช่วงนี้ และยิ่งมีการระเบิดของโรงงานสารเคมีในช่วงนี้อีก ทำให้ปัญหา ฝุ่น และ มลพิษสูงถึงขั้นวิกฤติ ของชาวกรุงเทพแต่ยังมี ตัวช่วย ปรับสภาพอากาศ ซึ่งนั่นก็คือ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )

 

 

เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) คืออะไร ?

เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่กำจัดสิ่งที่ปนเปื้อน มากับอากาศ เช่น ฝุ่น ( Dust ) แบคทีเรีย ( Bacteria ) หรือ ไวรัส ( Virus ) รวมไปถึงกลิ่น ที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ อย่าง กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นรองเท้า หรือกลิ่นเหม็นต่าง ๆ โดยหลักการทำงาน ของมันคือ การดูดอากาศ ที่ปนเปื้อนสิ่งเหล่านี้ เข้าไปผ่านกระบวนการ และ ปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา

 

 

5 เหตุผลว่าทำไม เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ถึงจำเป็นสำหรับคุณ

1. เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ป้องกัน สารก่อภูมิแพ้ ในอากาศ

สำหรับคน ที่มี โรคภูมิแพ้ ( Allergy ) เป็นโรคประจำตัว คงเข้าใจดีว่า เมื่อร่างกายได้สัมผัส และ สูดดมฝุ่นเข้าไปแล้ว ถึงจะเป็นปริมาณ ที่เล็กน้อยแค่ไหน ก็สามารถทำให้ อาการกำเริบได้ และในระยะยาว ถ้าสภาพแวดล้อมภาย ในห้องนั่งเล่น หรือห้องนอน ยังเต็มไปด้วยฝุ่น ( Dust ) อยู่ อาการเหล่านั้น ก็จะไม่มีทางดีขึ้นได้ ซึ่ง เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier )  จะทำหน้าที่ดักจับฝุ่น  ( Dust ) หรือ สารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ ที่อยู่ในอากาศ เช่น เกสรดอกไม้ และ ปล่อยอากาศบริสุทธิ์ ไปยังพื้นที่นั้น ๆ ทำให้คุณสามารถมั่นใจว่า อากาศที่สูดหายใจเข้าไปนั้น จะไม่มีสารก่อภูมิแพ้ใด ๆ

 

 

2. เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ช่วยกำจัดขน และ สารก่อภูมิแพ้ จากสัตว์เลี้ยง

ถึงแม้ว่า คุณจะพยายาม ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณ สะอาดแค่ไหน ก็ไม่ได้แปลว่าบ้านของคุณ จะสะอาด และปราศจาก เชื้อโรคอยู่ดี เพราะนอกจากขน ที่ลอยอยู่ตามอากาศแล้ว ก็ยังมีปัญหาอื่นอย่าง เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว หรือ น้ำลาย ที่เป็นตัวก่อเชื้อโรค อีกด้วย ซึ่งสามารถทำให้คน ที่มีอาการแพ้ เป็นอันตรายได้ แต่สำหรับคนที่ ไม่มีอาการแพ้ สารก่อภูมิแพ้ จากสัตว์เลี้ยง ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจไป เพราะในระยะยาว สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ อาจส่งผลเสีย ต่อปอดคุณได้ หากคุณยังคลุกคลี กับพวกมัน โดยเลือกไม่แก้ปัญหานี้ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) จะเข้ามากำจัด และแยกสารก่อภูมิแพ้ เหล่านี้ด้วยคุณสมบัติ ของแผ่นกรองแต่ละชิ้น ทำให้คุณสบายใจได้ ว่าคุณ และ สมาชิก ในครอบครัวของคุณ จะสามารถเล่น และใช้ชีวิตกับสัตว์เลี้ยง ได้อย่างปลอดภัย

 

 

3. เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ลดความเสี่ยง จากอันตราย ของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์

ถ้าคุณกำลังเป็นแม่ ที่กำลังจะตั้งครรภ์ คุณควรระวังอันตราย จากมลพิษทางอากาศ เป็นพิเศษ เพราะผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน ที่เกิดขึ้นได้จากการ สูดดมจุลินทรีย์ แบคทีเรีย หรือสิ่งแปลกปลอม ขนาดเล็กที่ปนเปื้อน มาในอากาศ และ อาจจะทำให้เกิด การคลอดก่อนกำหนด ปัญหาทางเดินหายใจของทารก หรือ อาจจะทำให้ ทารกเสียชีวิต โดยตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุด ของเชื้อจุลินทรีย์ก็คือ ทอกโซพลาสมา กอนดิไอ ( Toxoplasma gondii ) ที่เป็นปรสิต เซลล์เดียว ที่อาศัยอยู่ภายใน เซลล์บุลำไส้ของแมว หรือ สัตว์ในตระกูลแมว และ คุณก็มีโอกาส สูดดมมันเข้าไปได้นั่นเอง ซึ่งการใช้ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) จะสามารถช่วย บรรเทาปัญหานี้ได้ ด้วยคุณสมบัติ ของแผ่นกรอง UPI Plasma Ion Filter แบบที่อยู่ใน Airbot ที่มีส่วนช่วยในการ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และไวรัสได้สูงถึง 99 % ทำให้คุณได้ลดโอกาสเสี่ยง ในการสัมผัสเชื้อจุลินทรีย์นี้ได้

 

 

4. เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) กำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

กลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่มาจากหลากหลายสาเหตุ เช่น กลิ่นจากบุหรี่ กลิ่นอับ กลิ่นจากสัตว์เลี้ยง หรือ กลิ่นจากถังขยะในบ้าน ทำให้ส่งกลิ่นเหม็น กระจายไปทั่วทั้งบ้าน หรือ บางครั้งอาจจะฝังแน่น ในเฟอร์นิเจอร์ ของคุณ ซึ่งถ้าใช้ชีวิต อยู่กับกลิ่นเหม็น และ สูดดมมัน เป็นเวลานาน จะทำให้ประสาท การรับกลิ่นของคุณแย่ลง ซึ่งอาจจะทำให้ การตอบสนอง ต่อกลิ่นช้าลงส่วนหนึ่ง เป็นเพราะคุณเริ่มชิน กับกลิ่นนั้น ๆ โดยการใช้ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) จะช่วยกำจัดกลิ่น ไม่พึงประสงค์พวกนี้ รวมไปถึงช่วยลด กลิ่นฝังแน่น และเชื้อโรคในอากาศ ได้อีกด้วย

 

 

5. เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) ลดความเสี่ยงอันตราย จากสารเคมี

ถ้าคุณอยู่ในบ้าน ที่เต็มไปด้วย เคมีภัณฑ์ เช่น สีสเปรย์ที่อยู่บนกำแพง สีทาบ้าน ตัวทำละลาย ( เช่น สารทำละลาย ที่เป็นส่วนประกอบ ของก๊าซต่าง ๆ ) สารฟอกขาว ( เช่น สารกันหืนในอาหาร ) หรือน้ำมัน การลงทุนซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ( Air Purifier ) อาจจะเป็นตัวเลือก ที่คุ้มค่าเพื่อดูแลสุขภาพ ของคุณระยะยาว เพราะการสูดดม และอยู่กับสารเคมี เหล่านี้ต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานาน ๆ สารเคมี ที่มีฤทธิ์กัดกร่อน จะทำให้เยื่อจมูก และ หลอดลมอักเสบ หรือ สามารถซึมผ่านเนื้อเยื่อ เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เป็นพิษได้

 

 

 

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

6 วิธีปรับปรุง คุณภาพอากาศ ภายในบ้าน