เครื่องฟอกอากาศ กรองโควิด 19 ได้ไหม
สภาพอากาศในปัจจุบัน มีอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ ทำให้หลาย ๆ บ้านต้องหาซื้ออุปกรณ์เครื่องฟอกอากาศ มาช่วยในการกรอง แต่ปัญหาในทุกวันนี้ไม่ได้มีแค่ฝุ่น ควัน แต่ยังมีโควิด 19 อีกด้วย แล้วเครื่องฟอกอากาศจะช่วยเราได้ไหม มาดูกัน
ไวรัสโควิด 19 แพร่เชื้อได้อย่างไร
ไวรัสโควิด 19 เป็นเชื้อไวรัสที่อันตรายมาก มันพลากชีวิตคนเราไปมากมาย ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเรายังคง ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับไวรัสโควิด 19 และก็มีวัคซีนออกมาแล้ว แต่ไวรัสนี้ถือว่าเป็นไวรัสกลุ่มอาการโรคทางเดินหายใจที่รุนแรงเฉียบพลัน สามารถแพร่กระจายผ่านละอองฝอย หรือละอองในอากาศ ( Aerosol ) ได้เช่นเดียวกับโรคหัด และไข้หวัดใหญ่ เมื่อไวรัสเดินทางมาสัมผัสกับเยื่อบุต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น เยื่อบุในตา เยื่อบุโพรงจมูก และเยื่อบุในปาก จะทำให้เกิดการติดเชื้อ เจ็บป่วย ถึงขั้นเสียชีวิตได้
สาเหตุ การติดเชื้อไวรัสโควิด 19
ไวรัสสามารถแพร่กระจายจากผู้ติดเชื้อได้ ผ่านการพูด ร้องเพลง ตะโกน หรือไอจาม เชื้อไวรัสจะเกาะกับละอองที่ออกมา มีขนาดใหญ่ประมาณ ( เส้นผ่าศูนย์กลาง 5 ไมครอน ) กระจายในอากาศอย่างรวดเร็ว การสวมหน้ากากอนามัย หรือ Face shield หรือการงดการสังสรรค์ เลี่ยงแหล่งชุมชน ก็เป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการแพร่ หรือการติดเชื้อได้ เครื่องฟอกอากาศที่เราใช้อยู่ อาจไม่สามารถช่วยป้องกันการแพร่กระจายในลักษณะนี้ได้ เพราะคงไม่มีใครเดินถือเครื่องฟอกอากาศหรอก
ไวรัสโควิด 19 เมื่อแพร่กระจายอยู่ในอากาศแล้ว สามารถเกาะอยู่บนวัตถุ หรือพื้นผิวคนเราได้ สามารถกระจายสู่ผู้อื่นได้ โดยผ่านการสัมผัส เชื้อโดยครง แล้วมือที่เราจับน้ำไม่ได้ล้างแอลกอฮอร์ หรือสบู่มาจับใบหน้า หู ตา จมูก ปาก หรือบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย การล้างมือบ่อย ๆ โดยสบู่ การใช้เจล และสเปรย์แอลกอฮอล์ จึงเป็นประโยชน์อย่างมาก
เชื้อไวรัส ที่เกิดจากการแพร่กระจาย ออกไปแล้ว จะมีไวรัสกว่า 40,000 หยด ( เส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า หรือเท่ากับ 5 ไมครอน ) ซึ่งสามารถลอยได้ไกลถึง 3 - 4 เมตร อยู่ในอากาศได้นานกว่า 40 - 45 นาที ซึ่งการอยู่ในสถานที่ปิด อาทิ บ้าน ศูนย์การค้า ร้านอาหาร การมีเครื่องฟอกอากาศแบบห้องแรงดันต่าง ๆ ที่ใช้ในทางการแพทย์ หรือเครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูง ก็สามารถช่วยลดการแพร่กระจายได้ ซึ่งก็เป็นผลดีของเครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศกรองเชื้อไวรัส จริงไหม
เครื่องฟอกอากาศระบบกรองจะใช้แผ่นกรองแบบต่าง ๆ ที่เครื่องนั้น ๆ ใช้ แต่ แผ่นกรองชนิด HEPA เป็นแผ่นกรองที่สามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กได้
เรามาทำความรู้จัก HEPA ( High Efficiency Particulate Air ) คือ แผ่นกรองที่ผลิตมาจากใยสังเคราะห์ ที่มีการเพิ่มประจุไฟฟ้าสถิตเอาไว้ ซึ่งเพื่อช่วยดักจับอนุภาคต่าง ๆ ให้ติดกับตาข่าย แต่ก็ข้อจำกัดมาก เพราะเมื่อใช้ไประยะหนึ่งแล้ว แผ่นกรองชนิดนี้ จะสะสมอนุภาคไว้มากจนเต็ม ประจุไฟฟ้าสถิตบนเส้นใย ที่ช่วยดึงอนุภาคไว้ก็จะลดลงตามไปด้วย การกรองของเครื่องฟอก ระบบ HEPA จึงจะค่อย ๆ สูญเสียความสารถไปที่ละน้อย ๆ เมื่อใช้ไประยะหนึ่งแล้ว
ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า แผ่นกรอง HEPA สามารถกรองอนุภาคที่เล็กได้ โดยสามารถกรองได้ถึงขนาด 0.3 ไมครอนเท่านั้น หรือมีขนาดใหญ่กว่าไวรัสทั่วไปถึง 3 เท่า แต่ไวรัสที่มีขนาดเล็กที่สุดคือ 0.02 ไมครอน ทำให้เครื่องฟอกอากาศ ที่ใช้แผ่นกรอง HEPA แล้ว ที่สามารถกรองอนุภาคได้เล็กมาก ตั้งแต่ ฝุ่น เกสรดอกไม้ ควันบุหรี่ และไวรัสที่ขนาดใหญ่
HyperHEPA เป็นแผ่นกรองที่ดีกว่าแบบ HEPA โดยผลิตจากใยแก้วแท้ มีความละเอียดถึง 0.003 ไมครอน สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กละเอียด ( Ultrafine particles ) ขนาด 0.1 ไมครอนได้ ซึ่งอนุภาคที่อยู่ในอากาศที่เล็กที่สุดในโลกที่ถูกค้นพบ มีขนาด 0.003 ไมครอน ไวรัสที่เล็กที่สุดในโลก มีขนาด 0.02 ไมครอน ส่วนไวรัสโควิด 19 นั้น มีขนาดประมาณ 0.06 - 0.14 ไมครอน ซึ่งแผ่นกรอง HyperHEPA ที่ผลิตจากวัสดุใยแก้วแท้ สามรถดักจับอนุภาคเหล่านี้ได้ดีกว่าแบบ HEPA และยังทำงานได้เต็มที่ตลอดอายุการใช้งาน
ไม่มีเครื่องฟอกอากาศ ป้องกันไวรัสได้ 100 %
ถึงแม้เครื่องฟอกอากาศที่มีในปัจจุนี้ จะสามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก ๆ แล้ว แต่การดูแลรักษาเครื่องก็เป็นหนึ่งในปัจจัย ที่ทำให้เครื่องฟองอากาศนั้น อาจจะทำงานได้ไม่เต็มร้อย เครื่องฟอกอากาศจึงไม่ใช่สิ่งที่จะช่วยเราได้ทั้งหมด การที่เราป้องกันตัวเอง ด้วยวิธีต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งที่ควรทำด้วย เช่นกัน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราเองได้
อ่านบทความเพิ่มเติม
บรรยากาศดีๆ ในครอบครัวที่แสนอบอุ่น